รีวิวหนัง เรื่อง Gladiator ที่คว้ารางวัลมามากมาย

1 min read

Gladiator เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์ กำกับการแสดงโดยริดลีย์ สก็อตต์ และนำแสดงโดยรัสเซล โครว์ ออกฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2543

ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของมักซิมุส (รัสเซล โครว์) แม่ทัพโรมันผู้กล้าหาญที่ต่อมาต้องกลายเป็นทาสและเข้าร่วมเป็นกลาดิอาตอร์นักรบเดนตายที่คอยแสดงฝีมือการต่อสู้ให้ผู้ชมได้ชม มักซิมุสต้องการแก้แค้นก็อมมอดุส (โจนาธาน รีส-เมเยอร์ส) จักรพรรดิผู้ชั่วร้ายที่พรากลูกเมียไปจากเขา

Gladiator ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ โดยทำรายได้ไปทั่วโลกกว่า 457 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับรางวัลออสการ์ 5 สาขา รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

เรื่องย่อ

แม็กซิมัส เดคิมัส เมริดัส นายพลแห่งกองทัพโรมันที่มีผลงานเด่นชัดในการขยายอาณาจักร จนเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ ซีซาร์ มาคัส ออรีรุส ในทางเดียวกันแม็กซิมัสก็เคารพนับถือเขาเปรียบเสมือนเป็นพ่อของเขาเช่นกัน จนกระทั่งวันนึง คอมโมดุส ลูกชายแท้ๆ ที่เหลวแหลกของซีซาร์ เกิดทราบข่าวว่า พ่อของเขามีแผนจะให้ แม็กซิมัส เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิแทน นั่นเลยเป็นชนวนเหตุให้ คอมโมดุส ฆ่าพ่อตัวเอง และโยนความผิดให้กับ แม็กซิมัส จนทำให้ครอบครัวของเขาถูกสังหารโหด ตัวเขาเองก็ถูกจับเป็นทาส จนได้ผันตัวเองสู่นักสู้ในโคลอสเซียม ที่มีเป้าหมายในการเอาชีวิตรอดออกไปเพื่อล้างแค้นให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Gladitor นั้น จะเหมาะกับคนที่ชอบหนัง Epic ย้อนยุคแบบยิ่งใหญ่อลังการ จัดเต็มทั้งคอสตูมและงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อยากเห็นกรุงโรมหรือฉากโคลอสสเซียมถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ ประกอบกับฉากแอคชั่นสุดมันส์ และดราม่าสุดเข้มข้น ที่มีรางวัลน้อยใหญ่มาการันตีคุณภาพแล้ว นี่คือหนังสำหรับคนดูกลุ่มนี้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคนที่อาจไม่ชอบความพีเรียดเพราะให้ความรู้สึกเหมือนดูลิเก กับละครฉากใหญ่ที่ว่าด้วยการล้างแค้นแล้ว อาจจะลองดูช่วงต้นก่อนก็ได้ว่ารู้สึกอย่างไร เพราะหากติดใจแล้วรับรองว่าดูยาวไปจนจบได้ไม่ยาก หากใครชอบหนังแอคชั่นย้อนยุคสไตล์ Troy, Ben Hur หรือซีรีส์อย่าง Spartacus แล้ว ยิ่งต้องดูเรื่องนี้แบบพลาดไม่ได้เลย

  • สายหนังอิพิคย้อนยุค
  • สายหนังแอคชั่นย้อนยุค
  • สายหนังคลาสสิคยุค 90

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังย้อนยุคโคตร Epic แห่งศตวรรษที่ 20 อันทรงคุณค่า และเป็นที่รักของใครหลายๆ คนมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งด้านรายได้ที่กวาดจากทั่วโลกไปถึง 465 ล้านเหรียญ และเข้าชิงรางวัลออสการ์เยอะเป็นประวัติการณ์ถึง 12 สาขา จนคว้ามาได้ถึง 5 สาขา รวมถึงรางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย และนอกจากนี้หนังก็ยังมีฉบับ Extended Edition ออกมาให้แฟนๆ หนังเรื่องได้เต็มอิ่มกันมากขึ้นกับรายละเอียดสุดเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งส่วนนึงที่ทำให้ตัวหนังสร้างความโดดเด่นเป็นอย่างมากในยุคนั้น ก็คือความอลังการงานสร้างในการเนรมิตฉากโคลอสเซียม สนามประลองนักสู้ Gladiator ได้ชวนอ้าปากค้าง เพราะมันทำออกมาได้ยิ่งใหญ่และดูสมจริงมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่สร้างมาในยุคนั้นจริงๆ

การคืนชีพของกรุงโรมขึ้นมาใหม่นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความยิ่งใหญ่อลังการไปในฉากหลังของเรื่องราวเท่านั้น เพราะเมื่อใส่ฉากแอคชั่นต่างๆ ลงไปด้วย มันเลยเพิ่มความสมจริงให้รู้สึก โหด ดิบ มันส์ ชวนลุ้นได้ในแต่ละฉากที่ถูกดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี ทั้งฉากดวล 1-1 ทั้งฉากรถม้า หรือการใส่เสือเข้ามาในการต่อสู้ จนทำให้การฉากต่อสู้ค่อยๆ ยกระดับได้เดือดขึ้นไปถึงจุดพีคในช่วงท้าย พอไปประกอบกับดนตรีของ จอห์น วิลเลียมส์ ที่สร้างมนต์ขลังมาแล้วให้หนังหลายต่อหลายเรื่อง ก็ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ร่วมที่ทำเอาคนดูต้องลุ้นไปกับหนังจนแทบลืมหายใจ

การเลือกนักแสดงมาเป็นอีกส่วนที่ช่วยผลักดันให้หนังมาได้ไกลมาก ทั้งตัว รัสเซล โครว์ เองที่ดึงพลังการแสดงออกมาเล่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพาร์ทแอคชั่น หรือดราม่า หรือรีดอารมณ์ออกมาได้อย่างเข้มข้นจนนำไปสู่ฉากสุดท้ายที่แสนทรงพลังและเป็นที่น่าจดจำอย่างยิ่ง จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานำชายมาได้อย่างไม่แปลกใจ ในส่วนดาราคนอื่นๆ เองก็เสริมพลังกันไม่แพ้กัน ทั้งวายร้ายที่คนดูเกลียดสุดๆ อย่าง วาคีน ฟินิกซ์ ก็ดูชั่วได้ใจคนดูมาก เชือดเฉือนกับตัวเอกได้อย่างสนุก และทำให้หลายๆ คนไม่ไว้ใจในอารมณ์ที่รุนแรงของเขา ส่งผลให้ดาราหลายๆ คนต่างก็ขึ้นมาแถวหน้าของฮอลลีวู้ดได้หลังจากหนังเรื่องนี้เลย ด้วยองค์ประกอบที่ดีงามทั้งหมดนี้ก็ไม่แปลกใจนัก หาก Gladiator ยังคงเป็นหนังที่ยังมีคนหยิบมาดูได้อย่างซ้ำๆ และสนุกไปกับมันได้ถึงทุกวันนี้ จนสามารถนับเป็นหนังคลาสสิคของยุค 90s ได้อีกเรื่องเลย

จุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่:

  • การแสดงที่ยอดเยี่ยม: รัสเซล โครว์ มอบการแสดงที่ทรงพลังและน่าจดจำในบทมักซิมุส เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างสมจริงและน่าเชื่อ
  • เรื่องราวที่เข้มข้น: เรื่องราวการแก้แค้นของมักซิมุสนั้นเข้มข้นและน่าติดตาม ผู้ชมสามารถเอาใจช่วยมักซิมุสได้ในการเดินทางเพื่อล้างแค้น
  • ฉากแอ็คชั่นที่ตระการตา: ฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมและสมจริง ฉากการต่อสู้ระหว่างมักซิมุสกับคู่ต่อสู้ของเขานั้นน่าตื่นเต้นและน่าจดจำ

จุดอ่อนของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่:

  • บทที่อ่อนแอ: บทของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ่อนแอและคาดเดาได้ ตัวละครบางตัวก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน
  • ความรุนแรงที่มากเกินไป: ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความรุนแรงที่มากเกินไปซึ่งอาจทำให้ผู้ชมบางคนไม่สบายใจ

โดยรวมแล้ว Gladiator เป็นภาพยนตร์มหากาพย์ที่ยอดเยี่ยม นำเสนอเรื่องราวการแก้แค้นที่เข้มข้นและน่าติดตาม การแสดงของรัสเซล โครว์นั้นยอดเยี่ยม และฉากแอ็คชั่นก็ตระการตา ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูอย่างยิ่ง

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours